จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสในยุคปัจจุบัน การจัดการน้ำเสียถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการบำบัดน้ำเสียคือการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการลดการปนเปื้อนของสารพิษและการปรับปรุงคุณภาพน้ำที่ปล่อยออกจากระบบต่างๆ "จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส" คือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้อย่างครบถ้วน
ทำความรู้จักกับจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส
1. ความหมายและหลักการทำงาน
จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่อบำบัดน้ำเสีย โดยการใช้จุลินทรีย์ที่มีความสามารถในการย่อยสลายสารอินทรีย์และสารพิษในน้ำเสียให้กลายเป็นสารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคนิคนี้ช่วยในการลดปริมาณสารพิษและเพิ่มความสะอาดของน้ำเสีย
2. ประโยชน์ของการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส การใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส มีข้อดีหลายประการ
ลดการใช้สารเคมี: ใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติในการบำบัดน้ำเสีย ลดความต้องการในการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย
ประหยัดต้นทุน: ลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากการใช้จุลินทรีย์ไม่ต้องการอุปกรณ์ซับซ้อน
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้นและปลอดภัยต่อการปล่อยออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
ประเภทของจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส1. จุลินทรีย์ชนิดย่อยสลายสารอินทรีย์ ประเภทนี้เหมาะสำหรับการบำบัดน้ำเสียที่มีสารอินทรีย์สูง เช่น น้ำเสียจากอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร จุลินทรีย์เหล่านี้ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ให้กลายเป็นสารที่ไม่เป็นอันตราย
2. จุลินทรีย์ชนิดย่อยสลายสารพิษ จุลินทรีย์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับสารพิษและสารเคมีที่มีอยู่ในน้ำเสีย เช่น โลหะหนักและสารเคมีอันตราย จุลินทรีย์จะช่วยเปลี่ยนสารพิษเหล่านี้ให้กลายเป็นสารที่ปลอดภัยและสามารถจัดการได้ง่าย
วิธีการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัส
1. การเตรียมระบบบำบัด ก่อนการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ควรทำการตรวจสอบและเตรียมระบบบำบัดให้พร้อม เช่น การล้างระบบท่อหรือถังบำบัดเพื่อให้จุลินทรีย์สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
2. การเลือกประเภทจุลินทรีย์เลือกประเภทของจุลินทรีย์ที่เหมาะสมกับประเภทของน้ำเสียที่ต้องการบำบัด เช่น การเลือกจุลินทรีย์ชนิดย่อยสลายสารอินทรีย์หรือสารพิษ
3. การติดตั้งและการบำรุงรักษาติดตั้งจุลินทรีย์ตามคำแนะนำของผู้ผลิตและตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าการบำบัดน้ำเสียดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
1. ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้การบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น กลิ่นไม่พึงประสงค์หรือการบำบัดที่ไม่สมบูรณ์
2. การรับรองมาตรฐาน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยต่อการใช้งาน
การใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการจัดการน้ำเสีย โดยการใช้เทคโนโลยีจุลินทรีย์ในการย่อยสลายสารอินทรีย์และสารพิษในน้ำเสียให้กลายเป็นสารที่ปลอดภัย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับประเภทของน้ำเสียจะช่วยให้การบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียและผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือก คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ Taniyainfratech เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมและติดต่อสอบถามได้
1. คำถาม: จุลินทรีย์คืออะไร ?
คำตอบ : จุลินทรีย์ ( Micro-organism ) หรือจุลชีพ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาเปล่า เป็นสัตว์เซลล์เดียว มีทั้งประเภทให้ประโยชน์ ให้โทษ และเป็นกลาง จุลินทรีย์ในโลกนี้มีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน การดำรงชีพมีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน แบ่งตามคุณลักษณะมีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ให้ประโยชน์ต่อพืชและสัตว์ มีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน กลุ่มนี้มีอยู่ในธรรมชาติรวมกันประมาณ 10 % ( ชนิดใช้ออกซิเจน + ชนิดไม่ใช้ออกซิเจน ) จุลินทรีย์กลุ่มนี้ให้ประโยชน์ต่อพืชและสัตว์ในหลายๆ ด้าน จุลินทรีย์ที่อยู่ในนมเปรี้ยวก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ มีการนำมาใช้ประโยชน์ทั้งเป็นยาและอาหาร การหมักปุ๋ย ฯลฯ
2. กลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้โทษหรือกลุ่มจุลินทรีย์ที่สร้างปัญหาก่อเชื้อโรคต่างๆ ต่อพืชและสัตว์ มีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจนเช่นกัน กลุ่มนี้มีอยู่ในธรรมชาติรวมกันประมาณ 10 % ของจุลินทรีย์โดยรวมทุกๆชนิด อาหารบูดเน่า แผลติดเชื้อ แผลเน่าก็มาจากจุลินทรีย์กลุ่มนี้ ติดเชื้อแบคทีเรียก็คือจุลินทรีย์กลุ่มนี้นั่นเอง
3. กลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นกลาง ซึ่งเข้าร่วมงานกับจุลินทรีย์กลุ่มใดก็ได้ใน 2 กลุ่มข้างต้น มีทั้งชนิดใช้ออกซิเจนและไม่ใช้ออกซิเจน กลุ่มนี้มีอยู่ในธรรมชาติประมาณ 80 % มากที่สุดในบรรดากลุ่มจุลินทรีย์ทั้งหมดในธรรมชาติ ( ตามแบบจำลองด้านบน )
2. คำถาม : จุลินทรีย์เกี่ยวข้องกับการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียอย่างไร?
คำตอบ : น้ำเสียและของเสียต่างๆ ที่เจือปนอยู่ในน้ำเสียจะถูกย่อยสลาย โดยจุลินทรีย์กลุ่มที่มีประโยชน์กลุ่มที่ 1 ซึ่งกลุ่มนี้มีทั้งชนิดที่ใช้ออกซิเจนและชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีพและทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย ในน้ำเสียจะมีสิ่งปนเปื้อนและสิ่งสกปรกที่เป็นสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์แร่ธาตุต่างๆ เจือปนอยู่ในน้ำเสีย สิ่งสกปรกทั้งหลายจะถูกย่อยสลายให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายของวัฏจักรการย่อยสลายสสารเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนรูปไปเป็น พลังงาน + น้ำ + CO2
ดังนั้น ในการบำบัดน้ำเสียทุกๆ ระบบ จะขาดจุลินทรีย์ย่อยสลายไม่ได้โดยเด็ดขาด
3. คำถาม : จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียคืออะไร ?
คำตอบ : จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์และมีคุณสมบัติในการย่อยสลายของเสียในน้ำเสีย
4. คำถาม : กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียมีกี่สายพันธุ์ ?
คำตอบ : จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะการดำรงชีพ ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียชนิดใช้ออกซิเจนเป็นหลัก (Aerobic Bacteria) จุลินทรีย์กลุ่มนี้ขาดออกซิเจนไม่ได้ ต้องใช้ออกซิเจนในการดำรงชีพและการเจริญเติบโตขยายเซลล์ รวมถึงใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์กลุ่มนี้มีอยู่กระจัดกระจายอยู่ในนธรรมชาติ ดิน น้ำ และอากาศ
2. กลุ่มจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสียชนิดไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลาย (Anaerobic Bacteria) ซึ่งก็มีหลากหลายสายพันธุ์ที่มีอยู่ในธรรมชาติ
จะเห็นได้ว่าจุลินทรีย์ทั้งสองกลุ่มนี้จะทำหน้าที่บางอย่างคล้ายๆกัน นั่นก็คือ การทำหน้าที่ย่อยสลายของเสียต่างๆ ในน้ำเสียได้ดีเหมือนกัน ซึ่งสามารถนำมาทดแทนกันได้ เพื่อให้การย่อยสลายของเสียในน้ำเสียเป็นไปอย่างต่อเนื่องในบ่อบำบัดน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสีย
5. คําถาม: จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสผลิตโดยใคร?
คําตอบ: ผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ จากคณะเทคโนโลยีชีวภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
6.
คําถาม: จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสได้รับตรวจสอบคุณภาพจากที่ใดบ้าง?
คําตอบ: กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ สถาบันบริการผลิตภัณฑ์และตรวจสอบเทคโนโลยีชีวภาพ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
7. คําถาม: จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสผลิตอย่างไร? คําตอบ: ใช้เทคโนโลยีชีวภาพการหมักขั้นสูง (Advance Biotechnology) ที่มีระบบถังหมัก (Fermentor) แบบทันสมัยโดยใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์บริสุทธิ์ (Pure Culture) อาหารเลี้ยงเชื้อสูตรเฉพาะ (Specific Nutrients) ที่สภาวะ แวดล้อม (Environment) อุณหภูมิ (Temperature) และความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) เฉพาะของจุลินทรีย์แต่ละตัว ผู้เชี่ยวชาญของเราได้คัดแยกจุลินทรีย์หลังจากตรวจสอบจุลินทรีย์เป็นหลายพันตัวอย่าง จุลินทรีย์จึงถูกคัดเลือกเป็นพิเศษ และพิถีพิถันเนื่องจากต้องการพันธุ์ชั้นดีในการย่อยสลายของเสีย, สามารถกําจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังต้องทนต่อสภาพน้ำเสียและสภาพแวดลอมต่างๆ ของบ่อบําบัดได้ดี
8. คําถาม: จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสควรเก็บอย่างไร? คําตอบ: ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง (ไม่ควรเกิน 37 องศาเซลเซียส) หากเก็บโดยไม่เปิดฝาสามารเก็บได้นาน 2 ปี และควรให้ห่างเด็ก สัตว์เลี้ยง แสงแดด และ ความร้อน
9. คำถาม: จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสคัดสายพันธุ์แล้วเกี่ยวข้องกับการบําบัดน้ำเสียอย่างไร?
คําตอบ: จุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียต่างกัน จึงต้องคัดเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะกับน้ำเสีย เราจึงได้คัดสรรหัวเชื้อจุลินทรีย์ ที่เหมาะสมกับปริมาณและชนิดของน้ําเสียของท่านเป็นการเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทํางานในระบบบําบัดน้ำเสียของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. คำถาม: ทําไมถึงต้องเติมจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสต่อเนื่องเพราะระบบบําบัดน้ำเสียเดิมก็ใช้ได้อยู่แล้ว? คําตอบ: มีองค์ประกอบที่จะต้องพิจารณาหลายประการดังนี้
สําหรับอุตสาหกรรม
1. จุลินทรีย์ทีมีอยู่ในระบบบําบัดน้ำเสียนั้นส่วนใหญ่จะมีจํานวนน้อยมากต้องใช้เวลานานในการขยายตัวเพื่อเพิ่มปริมาณให้เพียงพอต่อสภาพน้ำเสีย
2. การกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา โดยจะทําให้ประสิทธิภาพด้อยลงกว่าเดิมจึงทําให้การบําบัดเป็นไปได้ช้า
3. ที่สําคัญกลุ่มจุลินทรีย์บางครั้งไม่มีความหลากหลายพอจึงทําให้ไม่สามารถย่อยสลายของเสียได้
สําหรับครัวเรือน 1.จุลินทรีย์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในถังบําบัด (Septic Tank) มีจํานวนน้อย 2.จุลินทรีย์กลายพันธุ์
3.ที่สําคัญจํานวนจุลินทรีย์จะค่อยๆ ลดลงเนื่องจากสารเคมีที่ไหลลงสู่ถังบําบัดจาก น้ํายาล้างจาน น้ำยาล้างสุขภัณฑ์ยาสระผม สบู่ ผงซักฟอก ฯลฯ
11. คำถาม: จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสขยายตัวเพิ่มขึ้นในระบบอยู่แล้ว ทำไมจึงต้องเติมต่อเนื่อง?
คําตอบ: ใช่ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีการเติมอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเวลาผ่านไปจะมีปัจจัยหลายประการทําให้ จํานวนจุลินทรีย์ลดลง
ตัวอย่างเช่น ในระบบ Septic Tank (บ้านเรือน) สารเคมีจากน้ํายาทําความสะอาด ห้องน้ำ, น้ํายาล้างจาน, สบู่,
ยาสีฟัน,
ผงซักฟอก
ส่งผลให้ 1. ความเข้มข้นของจุลินทรีย์ที่มีอยู่เดิมน้อยลง
2. เริ่มมีกลิ่นเหม็นอับย้อนตามท่อขึ้นมาในห้องน้ำและห้องพัก ซึ่งจะทําให้สภาวะแวดล้อมของที่พักไม่ดีและสุดท้ายก็จะทําให้เกิดท่อน้ำตัน ห้องน้ำเต็ม หรือส้วมเต็มในที่สุด
12. คำถาม: ใช้ระยะเวลานานเท่าใดจํานวนจุลินทรีย์จึงจะเริ่มลดลง?
คําตอบ: จากการวิจัยพบว่าภายใน 10-14 วัน หลังจากใช้งานจะเริ่มลดลงและอาจจะหมดภายใน 6 สัปดาห์
13. คำถาม:
เราพยายามเติมเอ็นไซม์แล้วแต่ไม่ได้ผลแล้วจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสจะทําได้อย่างไร? คําตอบ: อย่างแรกเลย Nano Plus คือจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียที่มีความเข้มข้นสูงไม่ใช่เอ็นไซม์ เอ็นไซม์เป็นโปรตีนที่เร่งการทําปฏิกิริยา ซึ่งมีผลดีในการช่วยเสริมการบําบัดเฉพาะบางอย่างเท่านั้นเอง จุลินทรีย์ประกอบด้วยเซลล์อยู่ภายในผนังด้านนอก คล้ายล้อรถที่มียางใน ตัวยางในเปรียบเหมือนจุลินทรีย์ จะไม่เหมือนยางรถตรงที่ผนังเป็นรูพรุน ซึ่งจะทําให้โมเลกุลสามารถผ่านเข้ามาในเซลล์ได้ จุลินทรีย์ไม่มีปากผนังด้านนอก จะอนุญาตให้โมเลกุลที่เล็กกว่าผ่านเข้ามาได้ง่าย ในขณะที่โมเลกุลที่ใหญ่กว่าจะเข้ามาไม่ได้ สารอาหารของจุลินทรีย์จะต้องถูกแปรเปลี่ยนให้มีโมเลกุลที่เล็กพอที่จะผ่านรูพรุนเข้าไปในเซลล์ได้ สารอาหารเหล่านั้นก็คือ
ของเสียที่ปนเปื่อนที่มีอยู่ในน้ำเสียนั้นเอง
14. คำถาม: เติมจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสเมื่อเกิดปัญหาได้หรือไม่?
คําตอบ: เพื่อการบําบัดได้อย่างรวดเร็วและป้องกันระบบบําบัดน้ำเสียล้มเหลว จึงควรเติมจุลินทรีย์ให้เพียงพอและเป็นประจําเพื่อเป็นการรักษาจํานวน เพราะการเติมเป็นประจําจะทําให้การขจัดสารปนเปื้อนในน้ำเสียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและสามารถรับภาระน้ำเสียที่สูงขึ้นทันทีหรือมีความสกปรกมากขึ้นได้
15. คำถาม: ควรใส่จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสเข้าไปในระบบบริเวณใดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด?
คําตอบ: ควรใส่ในระบบ ณ จุดที่มีสภาวะการบําบัดทางชีววิทยาที่มีสภาวะเหมาะสมต่อกระบวนการทางชีววิทยา ดังนี้
1. มีสภาพความเป็นกรด - ด่าง
(pH) ปานกลาง 5.5 - 8.5 2. อุณหภูมิช่วง 12 C - 40 C 3. ออกซิเจนเหมาะสม (แบบใช้อากาศ) ทั้งนี้หากสภาพทุกอย่างเหมาะสมก็จะทํางานได้เต็มที่ 4. สารอาหารที่ดีและเหมาะสม ดังนั้นเราจึงมีอาหารเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์เพื่อเป็นสารอาหารให้จุลินทรีย์
16. คำถาม: ทําไมต้องเติมจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสจํานวนมาก?
คําตอบ: ความสําเร็จของการใส่จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียมีปัจจัยสําคัญ 2 ประการ คือ
1. จุลินทรีย์ต้องมีคุณภาพสูงและหลากหลายสายพันธุ์ (Quality) เพื่อย่อยสลายของเสียได้หมดในสภาพน้ำเสียต่าง ๆ (เช่น ไขมัน โปรตีน แป่ง เซลลูโลส แอมโมเนีย กากตะกอนและสารแขวนลอย)
2. จุลินทรีย์ต้องมีความเข้มข้นหรือจํานวนมากพอ (Quantity) เพื่อให้สามารถทําการกําจัดของเสียทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
โดยปกติจุลินทรีย์จะกินของเสียที่ง่ายก่อน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ของเสียที่เราต้องการกําจัดออกไปตราบจนของเสียที่สลายยากเหลืออยู่มันจึงจะเข้าไปจัดการย่อยสลายของเสียเหล่านั้นต่อไป นั่นหมายถึงต้องมีจํานวนจุลินทรีย์ที่มากพอในการที่จะกําจัดของเสียในบ่อบําบัด
17. คําถาม: น้ำที่ผ่านการบําบัดแล้วจะมีสีน้ำตาลของกากน้ำตาลรึเปล่า?
คําตอบ: ไม่ใช่ เนื่องจากปริมาณการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียนาโนพลัสของเรามีอัตราส่วน 1 ลิตรต่อน้ำเสีย 10,000 ลิตร ดังนั้นสีของกากน้ำตาลจะเจือจางลงไปตามปริมาณของน้ำ
18. คำถาม: สลัดจ์จะมีสีอะไร เป็นสีน้ำตาลของกากน้ำตาลรึเปล่า?
คําตอบ: โดยธรรมชาติของสลัดจ์จะเป็นสีน้ำตาล เนื่องจากสลัดจ์ที่เกิดจากสารอินทรีย์ (Organic Sludge) เป็นตะกอนสด (Fresh Sludge) จะสีออกน้ำตาล มีกลิ่นไม่รุนแรง และมีสารอินทรีย์สูง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับกากน้ำตาล แต่อย่างใด
|